5 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ "ห้ามพลาด" ในปี 2015

ปี 2015 นับเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการไปท่องเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย เนื่องจากมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และเที่ยวบินของสายการบินทั้งแบบราคาประหยัด และสายการบินมาตรฐานที่เพิ่มขึ้นมากมายและมีราคาถูกลง ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงมากเป็นประวัติการณ์ยังทำให้นักท่องเที่ยวทีเงินในกระเป๋าเพื่อจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกครั้งเป็นอัตรา 10% อีกด้วย
       
สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการประเมินจากเว็บไซต์ชั้นนำต่างๆให้เป็น “สถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้” ในปี 2015 ได้แก่
 

 
1.วัดเบียวโด หนึ่งในมรดกโลกของนครเกียวโต สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 998 ในสมัยเฮอัน อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในวัดคือ ศาลาหงส์ The Phoenix Hall ซึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังเหรียญ 10 เยน สร้างขึ้นในค..ศ. 1053
 
ศาลาหงส์นับเป็นอาคารที่สร้างด้วยไม้เพียงไม่กี่หลังที่ยังหลงเหลือมาจากยุคเฮอัน หรือกว่า1,000 ปีก่อน ตัวศาลาประกอบด้วยห้องโถงกลาง ขนาบข้างด้วยปีกระเบียงทั้งสองด้าน และระเบียงด้านหลังศาลา ห้องโถงกลางเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอมิตาภะ หลังคาของศาลามีรูปปั้นหงส์ตั้งอยู่ ศาลาหงส์ได้ปิดซ่อมแซมนานหลายปี โดยเพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้อีกครั้งเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ในปีนี้
 
 

 
2.ปราสาทฮิเมจิ ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น คู่กับปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น สีขาวสว่างของตัวปราสาทอันโดดเด่นทำให้ชาวญี่ปุ่นขนานนามปราสาทฮิเมจิว่า “ปราสาทนกกระสาขาว”
 
ปราสาทฮิเมจิสีขาวสะอาดตัดกับสีชมพูของดอกซากุระและท้องฟ้าสีครามเป็นความงามที่สุดแสนประทับใจ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น“จุดชมซากุระที่พลาดไม่ได้ในปี 2015” เนื่องจากปราสาทฮิเมจิปิดซ่อมแซมยาวนานถึง 6 ปีตั้งแต่ปี 2009 และมีกำหนดการะเปิดให้เข้าชมได้ทั้งหมดทุกส่วน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมนี้เป็นต้นไป การได้ชมดอกซากุระบานเคียงข้างปราสาทฮิเมจิในปีนี้ จึงเป็นสุดยอดความประทับใจสมกับการรอคอยอันยาวนาน
 
 

 
3.อนุสรณ์สันติภาพ เมืองฮิโรชิมา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังเตือนให้ตระหนักถึงความโหดร้ายของอาวุธนิวเคลียร์ และส่งเสริมสันติภาพของโลก
 
ในวันที่ 6 สิงหาคม ปีนี้ ทางการเมืองฮิโรชิม่าจะจัดพิธีรำลึกครอบรอบ 70 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นโอกาสสำคัญที่นักท่องเที่ยวจะมาเยือนสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งความเจ็บช้ำจากไฟสงคราม เพื่อเรียนรู้บทเรียนแห่งการสร้างสันติภาพ
 
 

 
4.เมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิกาวะ เป็นเมืองที่รุ่มรวยทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยบ้านเรือนสมัยซามูไรและเกอิชาได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสวนเคนโร ที่ได้รับยกย่องว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
 
ในเดือนมีนาคม ปี 2015 การเดินทางไปเยือนเมืองคานาซาวะจะสะดวกมากขึ้น เนื่องจากมีการเปิดเดินรถไฟชินคันเซนจากกรุงโตเกียว เส้นทางรถไฟใหม่นี้จะลดเวลาเดินทางจากกรุงโตเกียวเหลือเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง จากปัจจุบัน4 ชั่วโมง และทำให้เพชรเม็ดงามอย่าง คานาซาวะ ที่เคยซ่อนตัวอยู่เผยโฉมสู่สายตานักท่องเที่ยว
 
 

 
5.ภูเขาโคยะ จังหวัดวากายามะ เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาในแดนอาทิตย์อุทัย เนื่องจากมีวัดและอนุสรณ์สถานทางพุทธศาสนาจำนวนมากอยู่บนภูเขาที่มีทิวทัศน์งดงาม จนได้รับขนานนามว่า “เชียงกรีลาแห่งญี่ปุ่น”
 
ในปี 2015 ภูเขาโคยะจะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 1,200 ปี จึงเป็นวาระพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนที่จะมาเยือนดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น