อภิมหาเศรษฐีจีนรวยกว่าจีดีพีนอร์เวย์ 10 เท่า

อภิมหาเศรษฐีแดนมังกรมีสินทรัพย์รวมกันสูงกว่าจีดีพีรายปีของนอร์เวย์ราว 10 เท่า
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ – ผลการศึกษาเผย แม้เศรษฐกิจจีนอาจกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ขรุขระ แต่ก็สามารถครองอันดับชาติ ที่มีอภิมหาเศรษฐีจำนวนมากที่สุดในโลก
      
การสำรวจบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิสูงลิ่ว ( ultra-high-net-worth) ซึ่งทำโดยหูรุ่น รีพอร์ต บริษัทจัดอันดับความมั่งคั่ง ตั้งอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ ร่วมกับธนาคารไชน่า หมินเซิง ระบุว่า จนถึงสิ้นเดือนก.ย. ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 500 ล้านหยวน ( 1 หยวน = 5 บาทโดยประมาณ) มีจำนวนเกิน 17,000 คน ซึ่งมากที่สุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่หูรุ่นเริ่มการรายงานความมั่งคั่งของจีนครั้งแรก
      
นอกจากนั้น ยังพบว่า เมื่อนำสินทรัพย์ของอภิมหาเศรษฐีทั้งหมดมารวมกันมีจำนวน 31 ล้านล้านหยวน หรือมากกว่าจีดีพีต่อปีของนอร์เวย์ราว 10 เท่า และฟิลิปปินส์ 20 เท่า โดยแต่ละคนมีสินทรัพย์เฉลี่ย 1,820 ล้านหยวน และมีอายุเฉลี่ย 51 ปี
      
อภิมหาเศรษฐีของจีนส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบริษัท นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือ นักเล่นหุ้น โดยในจำนวนเหล่านี้มี 300 คน ที่มีสินทรัพย์อย่างต่ำ ๆ  10,000 ล้านหยวน 2,900 คนมี 2,000-10,000 ล้านหยวน 5,100 คนมี 1-2,000 ล้านหยวน และที่เหลือมี 500 -1,000 ล้านหยวน
      
นายรูเพิร์ต ฮูจเวิร์ฟ ผู้ก่อตั้งหูรุ่นรีพอร์ตกล่าวว่า เกิดอภิมหาเศรษฐจีนเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ก็เนื่องจากเศรษฐกิจของจีน ที่กำลังขยายตัว และตลาดหลักทรัพย์ ที่คักคักขึ้นนั่นเอง
      
รายงานการศึกษาฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า สินทรัพย์รวมกันของอภิมหาเศรษฐีจีนเพิ่มในอัตราที่เร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของจีดีพีจีนในทุก ๆ ปี ยกเว้นปี 2555 โดยมีสินทรัพย์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 3,000 ล้านหยวนในปี 2551 เป็น 6,400 ล้านหยวนในปี 2557 ขณะที่จำนวนอภิมหาเศรษฐี ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 10,000 ล้านหยวน เพิ่มจาก 50 เป็น 176 คนในช่วงเวลาเดียวกันนี้
      
อภิมหาเศรษฐีส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม และมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยบริษัทเหล่านี้ร้อยละ 70 จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ หรือเซินเจิ้น
      
คนเหล่านี้มีความมั่นใจและมีความหวังในการดำเนินธุรกิจ โดยจำนวนครึ่งหนึ่งเชื่อว่า จะมีช่องทางกู้เงินได้ง่ายขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้าและเชื่อว่า สภาพเศรษฐกิจมหภาคจะดีขึ้น พร้อมกับสถานภาพในสังคมที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม มีเพียง 1 ใน 3 ที่เชื่อว่า เขาจะสามารถสร้างกำไรได้มากขึ้นกว่าในปัจจุบัน
      
นอกจากนั้น อภิมหาเศรษฐีร้อยละ 80 ยังวางแผนลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งครึ่งหนึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว โดยร้อยละ 45 ลงทุนด้วยการซื้อเพชรและหยกสะสม ขณะที่อีกร้อยละ 29 สะสมภาพวาด หรือผลงานอักษรพู่กันจีน

ที่มา : http://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9580000040594