เจาะลึกถึงลิ้น “โตเกียวบานาน่า” สัญชาติไทย

เมื่อบริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งและเบเกอรี่ในเครือซีพีออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ได้ผลิตขนมเค้กสอดไส้คัสตาร์ดรสกล้วย ที่มีหน้าตาคล้ายกับ “โตเกียวบานาน่า”  ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เลอ แปง บานาน่า” 
 
โดยได้ทดลองวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น บางสาขา ในราคา 12 บาท ซึ่งเบื้องต้นจะจำหน่ายเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ถึงวันที่ 25 พ.ค. นี้ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะผลิตเพื่อวางจำหน่ายต่อไปหรือไม่
 
จากการสำรวจของทีมข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ ด้วยการตระเวนหาซื้อ “เลอ แปง บานาน่า” ในร้านสะดวกซื้อละแวกถนนข้าวสาร-บางลำภู 8 สาขา พบว่าส่วนใหญ่จำหน่ายหมดแล้ว มีเพียง 3 สาขาที่ยังมีสินค้าเหลืออยู่ไม่กี่ชิ้น มากที่สุดมีอยู่ 3 ชิ้น
 
สำหรับโตเกียวบานาน่าสัญชาติไทยยี่ห้อ “เลอ แปง” แตกต่างจากโตเกียวบานาน่าที่วางจำหน่ายเป็นกล่อง 4-16 ชิ้นในญี่ปุ่น เพราะมาแบบห่อพลาสติกชิ้นเดียว ปริมาณสุทธิ 35 กรัม ตัวขนมหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้น คล้ายขนมเบเกอรี่ทั่วไป เมื่อดูวันเดือนปีที่ผลิตพบว่ามีอายุการเก็บรักษา 4 วัน ส่วนประกอบที่สำคัญเป็นไส้คัสตาร์ดรสกล้วย ไข่ไก่ น้ำตาล แป้งสาลี น้ำมันพืช ผงฟู เกลือเสริมไอโอดีน และซอร์บิทอล วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลเล็กน้อย
 

 
น่าสังเกตว่า ถ้าเป็นโตเกียวบานาน่าของญี่ปุ่นนั้น คอลัมน์ “ฟาสฟู้ดธุรกิจ” ของหนุ่มเมืองจันท์ เคยระบุว่า จะสั่งกล้วยหอมอบจาก บริษัท สยาม เอ็น ซี จำกัด ในประเทศไทยตกประมาณเดือนละ 2 ตัน ไปใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำไส้ขนม
 
แต่สำหรับ “เลอแปง บานาน่า” ยังไม่แน่ชัดว่าไส้ขนมจะเป็นคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของกล้วยหอมอบ หรือจะใช้หัวเชื้อกลิ่นกล้วยกันแน่ ซึ่งก็ต้องรอให้ฝ่ายซีพีแรมเป็นผู้ให้คำตอบกับเราต่อไป
 
เมื่อแกะห่อขนมออกมาแล้ว จะพบเนื้อแป้งสีเหลืองเนียน แต่เมื่อแบ่งครึ่งแล้วจะพบไส้คัสตาร์ดสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นกล้วยโชยออกมา จากการทดลองรับประทานพบว่ามีความหวานแหลมเหมือนขนมทั่วไป
 

 
ครั้นจะรับประทานคนเดียวก็คงกลายเป็นการใช้มาตรฐานเดียวตัดสิน จึงให้คนในกองบรรณาธิการ ที่เคยรับประทานโตเกียวบานาน่าจากแดนอาทิตย์อุทัยมาแล้ว ได้ทดลองรับประทาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นถึงลักษณะ และรสชาติว่าจะเหมือนกับฉบับออริจินอลมากน้อยขนาดไหน
 
รายแรก เป็นสุภาพบุรุษ กล่าวกับเราเมื่อทดลองชิมดูแล้ว ระบุว่าแป้งข้างนอกของ “เลอ แปง บานาน่า” จะแข็งกว่าโตเกียวบานาน่าที่แป้งมีความนิ่มกว่าเล็กน้อย ส่วนรสชาติพบว่าคล้ายกันมาก แต่โตเกียวบานาน่าของญี่ปุ่นจะหวานกว่า
 
รายที่สอง เป็นสุภาพสตรี มีความเห็นแตกต่างกันเล็กน้อย ระบุว่าขนาดของแป้งใหญ่กว่าโตเกียวบานาน่าของญี่ปุ่น พร้อมกับกลิ่นกล้วยแตะจมูกแรงมาก เมื่อทดลองชิมดูแล้วพบว่ารสชาติเลอแปงบานาน่าจะหวานกว่า
 
เท่านั้นยังไม่พอ เราให้สาวประจำโต๊ะวิทยาศาสตร์ ประวีณา พลเขตต์ ซึ่งเธอรับประทานโตเกียวบานาน่าเป็นประจำมาให้ชิมดู เธออธิบายแบบเจาะลึกราวกับข่าววิทยาศาสตร์ที่เธอลงภาคสนาม ระบุว่า บรรจุภัณฑ์โอเค แต่คิดว่าน่าจะทำได้น่ารักกว่านี้
 
ส่วนกลิ่นไม่เหมือนโตเกียวบานาน่า แต่หอมคล้ายขนมสาลี่ ความนุ่ม และเนื้อสัมผัสของแป้งด้านนอก คล้ายคลึงมาก ถือว่าทำได้ดี ขณะที่การเข้ารูปขนมเป็นสองส่วนประกบกันบน-ล่าง ต่างจากของจริงที่มาเป็นกล้วยอันเดียวสอดไส้ ทำให้ไม่สวยเท่า แต่ไม่ได้มีปัญหากับการกิน
 
ด้านความหวาน เธอกล่าวกับเราว่า จะพอๆ กับโตเกียวบานาน่า ซึ่งคิดว่ายังหวานไปสำหรับคนยุคใหม่ แต่อันนี้แอบเห็นว่าใช้วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลด้วย อาจจะดีกับผู้คุมน้ำหนัก แต่อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีการระบุปริมาณแคลอรี่ไว้ด้านหลังซอง
 
สุดท้าย กลิ่นกล้วยของไส้เป็นกลิ่นสังเคราะห์ หอมแต่ยังไงก็ไม่เหมือนกล้วยแท้ แต่ในไส้ครีมแอบใส่เม็ดดำๆ ลงไปด้วย คงอยากให้เข้าใจว่าเป็นเม็ดกล้วย โดยรวมถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับราคา 12 บาท
 

 
เฉพาะในส่วนของราคา ถ้านำของไทยไปเปรียบเทียบกับ “โตเกียว บานาน่า” ต้นฉบับที่วางขายเป็นแพค แพคละ 4-16 ชิ้น ซึ่งถ้าหารเฉลี่ยไม่รวมค่าขนส่งแล้วก็จะตกราคาชิ้นละ 120 – 130 เยน หรือราว 33 – 35 บาทแล้ว จะเห็นว่าต้นฉบับนั้นแพงกว่าของไทยทำถึง 3 เท่าเลยทีเดียว
 
นอกจากนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโตเกียว บานาน่าก็แตกไลน์ทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น โตเกียว บานาน่า ลายดอกไม้, ลายยีราฟ, ลายเสือดาว, รสคาราเมล, ไส้ช็อกโกแลต, ขนมปังอบแห้ง, ช็อกโกแลต, เค้ก ฯลฯ ดังนั้นโตเกียว บานาน่าสัญชาติไทยจึงไม่น่าจะกระทบตลาดของโตเกียว บานาน่า ต้นฉบับจากญี่ปุ่นเท่าไรนัก