เก๋งคอมแพกต์แห่ปรับโฉม ปลุกตลาดกลับมาร้อนแรง

ตลาดรถยนต์ไทยผ่านไตรมาสแรกปี 2558 ยอดขายยังไม่ฟื้น ไม่ว่าจะเป็นเก๋งขนาดเล็กหรือปิกอัพ แม้จะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาปลุกตลาดก็ตาม ส่วนบางกลุ่มอย่างเก๋งคอมแพกต์ยิ่งเงียบเหงา เพราะนับตั้งแต่การเปิดตัว “มาสด้า3” โฉมใหม่ และ “เอ็มจี6” แทบไม่มีความเคลื่อนไหวใหม่ๆ มาเกือบปีแล้ว แต่ล่าสุดเริ่มมีความคึกคักในตลาดเก๋งคอมแพกต์ เมื่อมีการปล่อยภาพรถคันต้นแบบ และรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาหลายรุ่น ซึ่งในไทยน่าจะเริ่มขยับตามตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป…

แน่นอนในตลาดเก๋งคอมแพกต์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดในช่วงนี้ เห็นจะเป็นการเผยโฉม “ซีวิค ดีไซน์ คอนเซปต์” ในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2015 เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางฮอนด้าประกาศชัดเจนนี่เป็นร่างต้นแบบของ ฮอนด้า ซีวิคเจนเนอเรชัน 10 ที่จะเปิดตัวอย่างเร็วในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปีหน้า และล่าสุดต้องฮือฮามากขึ้นไปอีก เมื่อมีการปล่อยไฟล์ภาพสเก็ตขาว-ดำของฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นภาพสิทธิบัตร โดยมีทั้งตัวถังแบบซีดาน และคูเป้ออกมาทาง CivicX.com และสื่อยานยนต์ออนไลน์ต่างๆ ทั่วโลกนำมาเผยแพร่ต่ออีกครั้ง

      
ดังนั้นดูเหมือนจะไม่ต้องมโนรูปลักษณ์หน้าตาของ ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ หรือเจนเนอเรชันที่ 10 ให้ยุ่งยากอีกต่อไปเพราะคันจริงคงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้มากนัก และหากเทียบภาพสเก็ตกับคันต้นแบบ แทบจะถอดแบบหน้าตากันมาเลย โดยมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของกันชนหน้า ที่ลดความโฉบเฉี่ยวลงมาให้เหมาะสมกับความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งในส่วนของบั้นท้ายรุ่นซีดานก็เช่นกัน แม้จะยังคงทรงบูมเมอแรงไว้ แต่ตัดแนวเส้นเชื่อมต่อระหว่างไฟท้ายทั้งสองด้านแยกออกจากกันชัดเจน ขณะที่รุ่นคูเป้ยังคงความโฉบเฉี่ยวเหมือนในรุ่นคอนเซปต์ไว้ เพียงแต่ถอดปีกสปอยเลอร์บนออกไป

โดยรูปลักษณ์รวมๆ ของฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ออกแบบได้สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากทีเดียว เรียกว่าเป็นสปอร์ตซีดานกันเลย อย่างที่ฮอนด้าได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า ซีวิค เจนเนอเรชันที่ 10 จะมีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น ขณะที่ตัวถังจะเตี้ยกว่าและกว้างกว่ารุ่นปัจจุบัน

     
ทั้งนี้กำหนดเผยโฉมฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ในสหรัฐอเมริกาจะเป็นช่วงปลายปีนี้ และหลังจากนั้นจะเป็นเวอร์ชั่นแฮทช์แบ็กส่วนในไทยที่นับตั้งแต่รุ่น FB ได้ยึดรูปลักษณ์ตามเวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกา แต่มีเฉพาะรุ่นซีดานทำตลาด ซึ่งซีวิคใหม่นี้ก็เช่นกันน่าจะได้เห็นส่งลงทำตลาดในช่วงต้นปีหน้า

ส่วนเก๋งคอมแพกต์อีกรุ่นที่เพิ่งเผยโฉมกันออกมา “เอ็มจี6” (MG6) ซึ่งเป็นการไมเนอร์เชนจ์ในประเทศอังกฤษ กับกันชนหน้าทรงสปอร์ตขึ้น และมีไฟแบบ Daytime Running Light แบบ LED กระจังหน้า และไฟหน้ามีการดีไซน์ใหม่เพื่อความสวยสะดุดตาขึ้น ขณะที่บั้นท้ายความสดใหม่อยู่ที่ไฟและกันชนท้ายใหม่ ซึ่งมีการเสริมแถบทับทิม และแถบดำที่ชายล่างเช่นเดียวกับการปรับรูปทรงของปลายท่อไอเสียใหม่ ส่วนในห้องโดยสารทางเอ็มจียืนยันว่ามีการปรับใหม่หลายจุด อาทิแผงมาตรวัด และแผงคอนโซลกลางที่มีการเพิ่มหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว และปรับเบรกมือจากเดิมเป็นแบบกลไกให้เป็นแบบไฟฟ้า

      
ที่น่าสนใจเห็นจะอยู่ที่ราคาของ MG 6 ในอังกฤษมีการปรับลงจากรุ่นเดิม โดยในรุ่นพื้นฐาน S ขายกันที่ 13,995 ปอนด์(699,000 บาท) หรือลดลง 3,000 ปอนด์ ส่วนรุ่นอื่นๆ ราคาใกล้เคียงของเดิม แต่ได้อุปกรณ์มาตรฐานเยอะขึ้น โดยอยู่ที่ 16,195-17,995 ปอนด์ หรือ 805,000-899,000 บาท

      
จากกลยุทธ์ดังกล่าวของเอ็มจีในประเทศอังกฤษ และแนวทางการทำตลาด “เอ็มจี3”(MG3) ในไทย ซึ่งรุ่นเอ็มจี6 ใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปีนี้ น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียว หลังจากหัวทิ่มไม่เป็นท่ากับการวางราคาสุดโต่งมาแล้ว…

สำหรับเก๋งคอมแพกต์รุ่นอื่นๆ ที่มีภาพหลุดไปก่อนหน้านี้ เห็นจะเป็น “ฮุนได เอลันตร้า” (Hyundai Elantra) เจนเนอเรชัน 6 ที่จะเข้ามาแทนรุ่นปัจจุบัน คาดว่าจะเปิดตัวในเกาหลีใต้ (อะวันเต้-Avante เป็นชื่อรุ่นทำตลาด) ช่วงครึ่งหลังปีนี้ แต่ในไทยคงจะได้เห็นกันช่วงปีหน้าเป็นอย่างเร็ว เพราะเพิ่งรุกตลาดกับรุ่น “เอลันตร้า สปอร์ต” ที่นำเข้าจากโรงงานประกอบในมาเลเซีย และมีการปรับราคาลงด้วย

      
ฮุนได เอลันตร้า ใหม่ มีความเปลี่ยนแปลงในด้านรูปลักษณ์ใหม่หมดทั้งคัน โดยด้านหน้ามีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ไฟแบบ LED สำหรับไฟกลางวัน หรือ Daytime Running Light ควบคู่กับโคมหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ โดยหน้าที่ในการออกแบบเป็นฝีมือของทีมงานในรุสเซนไฮม์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งที่นี่ทางฮุนไดมี Design Center ตั้งอยู่ ขณะที่เครื่องยนต์มีทางเลือกหลากหลายแต่ไฮไลท์อยู่ที่ขุมพลัง 4 สูบ 1,600 ซีซี. เทอร์โบแบบ T-GDI ที่ติดตั้งอยู่ในทูซอนใหม่ และคาดว่าจะมีกำลังสูงถึง 176 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์แบบคลัตช์คู่ DCT 7 จังหวะ หรือธรรมดา 6 จังหวะ

ส่วนอีกรุ่นเผยโฉมมาให้เห็นระยะหนึ่งแล้ว “ฟอร์ด โฟกัส” ใหม่ หรือรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่มีการปรับกระจังหน้าแบบใหม่ไปคล้ายกับรถยี่ห้อหนึ่ง จนทำให้หลายคนเรียกว่ารุ่นหน้า “Aston Martin” ซึ่งในไทยได้มีการนำมาวิ่งทดสอบให้เห็นแบบไม่ปิดบังหน้าตาใดๆ กันบ้างแล้ว ปัญหาคือรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังปีนี้หรือเปล่า? แน่นอนหากเคลียร์สต็อกรุ่นปัจจุบันได้คงจะมาแน่ แต่หากยังอืดเหมือนที่ผ่านมา น่าจะเลื่อนส่งรุ่นไมเนอร์เชนจ์ลงตลาดไปเป็นปีหน้าโน้น!!

      
ขณะเก๋งคอมแพกต์จากค่ายรถเมืองลุงแซมเหมือนกัน “เชฟโรเลต ครูซ” แฟนๆ หรือลูกค้าเก่าในไทยคงจะโล่งอก เพราะเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ยืนยันเก๋งคอมแพกต์รุ่นครูซ ยังอยู่ในแผนการผลิตและทำตลาดในไทยต่อไป ส่วนปีนี้จะมีการไมเนอร์เชนจ์ตามตลาดสหรัฐอเมริกาเลย หรือจะรอโมเดลเชนจ์ในปีหน้าทีเดียว แต่ไม่ว่าจะอย่างไร?… เชฟโรเลต ครูซจะต้องมีการปรับโฉมมาชนกับคู่แข่งแน่นอน

      
นี่คือความเคลื่อนไหวของเก๋งคอมแพกต์ ซึ่งจะเริ่มมีการปรับโฉมทยอยลงสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังนี้เป็นต้นไป แต่จะกลับมาคึกคักจริงๆ คงจะเป็นในปีหน้า และเวลานั้นหวังว่าตลาดรถยนต์ไทย จะกลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน?!…

 

ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045493