หนุ่มสาวมหาเศรษฐีพันล้านจีน แจ้งเกิดจากภาคเทคโนโลยีและการเงิน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ – อุตสาหกรรมภาคเทคโนโลยีและการเงินของจีนสร้างมหาเศรษฐีพันล้านรุ่นใหม่ ซึ่งร่ำรวยด้วยลำแข้งของตนเอง ขณะที่มหาเศรษฐีพันล้านในเอเชียจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า 
 
รายงานมหาเศรษฐีพันล้านประจำปี 2015 ( The 2015 Billionaire Report) ซึ่งเป็นผลการศึกษาร่วมกันระหว่างวาณิชธนกิจยูบีเอส และไพรซ์วอเตอร์เฮาสคูเปอร์ส หรือ พีดับเบิลยูซี ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำของโลก ระบุว่า มหาเศรษฐีพันล้านส่วนใหญ่ในเอเชียมาจากประเทศจีน และมีอายุเฉลี่ย 57 ปี ซึ่งน้อยกว่าอายุของมหาเศรษฐีพันล้านในสหรัฐฯ และยุโรปถึง 10 ปี
 
รายงาน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร ( 26 พ.ค.) เป็นการศึกษาจากข้อมูลมหาเศรษฐีพันล้าน 1,300 คนในตลาด 14 แห่ง ซึ่งมีทรัพย์สินรวมกันจำนวนทั้งสิ้น 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมหาเศรษฐีพันล้าน ซึ่งสร้างฐานะด้วยตัวเอง มีทรัพย์สินรวมกันมากถึงราว 2 ใน 3 หรือ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของทรัพย์สินเหล่านั้น
 
รายงานยังระบุว่า เอเชียมีมหาเศรษฐีพันล้าน ซึ่งสร้างฐานะด้วยตัวเองมากถึงร้อยละ 36 จากจำนวนทั้งหมด โดยรองจากสหรัฐฯ ซึ่งมีร้อยละ 47 และยุโรปร้อยละ 17
 
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีพันล้านในเอเชียจะแซงหน้ามหาเศรษฐีพันล้านในสหรัฐฯ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า โดยนายเจมส์ จาง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของพีดับเบิลยูซี ฝ่ายการให้คำปรึกษาบริการด้านการเงินของจีน ระบุว่า การพัฒนาในตลาดการเงินของจีนจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างความร่ำรวยจากการลงทุน โดยผู้ประกอบการรุ่นหนุ่มสาว หรือเพิ่งเริ่มต้นสร้างฐานะจะมีเครื่องมือทางการเงินในตลาดทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งมากขึ้น นอกจากนั้น ผู้เริ่มต้นสร้างฐานะยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีกด้วย
 
ด้านคาเรน เชิน ประธานของยูบีเอสไชน่า ระบุว่า มหาเศรษฐีพันล้านในจีนมีแนวโน้มลงทุนในตลาดท้องถิ่น และกระจายการลงทุนในตลาด ที่หลากหลาย ตลอดจนสนใจลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น