ช็อปรัว ! เซ็นทรัลซื้อ 3 ห้างสรรพสินค้าหรูในเยอรมัน คาดปั๊มรายได้ 4.5 หมื่นล้านบาท

การไล่ซื้อห้างสรรพสินค้าหรูในยุโรปยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล  ล่าสุดได้ลงนามในสัญญาเพื่อเข้าร่วมลงทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าดังระดับพรีเมี่ยมในประเทศเยอรมัน 3 แห่ง  คาเดเว (KaDeWe),  โอเบอร์โพลลิงเกอร์ (Oberpollinger) และ อัลสแตร์เฮ้าส์ (Alsterhaus)

การลงทุนรอบนี้ กลุ่มเซ็นทรัลได้จับมือร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของยุโรป ซิกน่า (SIGNA) ทั้งนี้กลุ่มบริษัทเซ็นทรัลจะเข้าถือครองหุ้นในสัดส่วน 50.1% ของกลุ่มคาเดเว (The KaDeWe Group) ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า ทั้ง 3 แห่งดังกล่าว และซิกน่าจะถือครองหุ้นในสัดส่วน 49.9 เปอร์เซ็นต์

ห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่งดังกล่าวที่ทางกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลจะเข้าร่วมทุนนั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 100 ปี มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเยอรมัน และตั้งอยู่ในเมืองที่มีความสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ

ภายในห้างคาเดเว

ร้านแบรนด์เนมหรูในห้างคาเดเว

 

-คาเดเว (KaDeWe) ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเยอรมัน มีพื้นที่ขายกว่า 60,000 ตารางเมตร และมีสินค้ากว่า 380,000 รายการตั้งอยู่ในบนถนนโทเอนซีนสตราสเซอ (Tauentzienstrasse) ย่านช้อปปิ้งสุดหรูกลางกรุงเบอร์ลิน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450

ห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์

 

-โอเบอร์โพลลิงเกอร์ (Oberpollinger) ตั้งอยู่บนถนน นอยเฮ้าเซอร์ (NeuhauserStrasse) ย่านช้อปปิ้งที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมิวนิค  เป็นห้างสรรพสินค้าที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ.2448 จนกระทั่งปัจจุบันและยังคงความเป็นห้างในระดับลักชัวรีที่ได้รับความความนิยมสูงสุดในเมืองมิวนิค

ห้าง อัลสแตร์เฮ้าส์

ภายในห้างอัลสแตร์เฮ้าส์

 

-อัลสแตร์เฮ้าส์ (Alsterhaus) อีกหนึ่งห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียม ตั้งอยู่ที่เมืองฮัมบูร์กติดกับทะเลสาบบิน เนเอ้าสแต (Binnenalster) อันงดงามของเมือง  โดยตัวห้างเป็นอาคารสูง 5 ชั้น สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิคผสมผสานการออกแบบตกแต่งภายในที่ทันสมัยอัลสแตร์เฮ้าส์มีประวัติที่รุ่งเรือง มายาวนาน โดยเปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2440

ทศ จิราธิวัฒน์

 

ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล กล่าวถึงการขยายการลงทุนในครั้งนี้ว่า“การร่วมลงทุนกับซิกน่าซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเรียลเอสเตท  ถือเป็นการเสริมความความแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลในภาคพื้นยุโรป และการที่ คนไทยมีโอกาสได้เข้าไปซื้อและบริหารพัฒนากิจการของห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดใน 3 เมืองใหญ่ของประเทศเยอรมัน  ซึ่งเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางเศษฐกิจมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต กลุ่มบริษัทเซ็นทรัลจะเข้าเป็นผู้บริหารงานและวางกลยุทธ์หลักในกลุ่ม คาเดเว โดยจะสืบทอดคุณค่าทางประวัติศาตร์ที่มีมายาวนานของห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่งพร้อมกับใช้ประสบการณ์ด้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลเข้าไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับแต่ละห้าง

ยอดขายจากห้างในยุโรปพุ่ง 1,200 ล้านยูโร

การร่วมทุนในครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลในยุโรปเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยจากยอดขายต่อปีรวมของลารินาเชนเตในประเทศอิตาลีและอิลลุมในประเทศเดนมาร์ก ที่ 600 ล้านยูโร ในปัจจุบัน เมื่อรวมกับ 3 ห้างดังกล่าวในประเทศเยอรมันแล้ว จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,200ล้านยูโร สำหรับเป้าหมายในอนาคตคือการร่วมมือกันกับพาร์ทเนอร์ที่มีความแกร่งพัฒนาห้างของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลให้เป็น 1 ในกลุ่มผู้นำห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมและลักชัวรีของโลก

สำหรับ ซิกน่า ถือเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในยุโรป ถือครองอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกันกว่า 6,500 ล้านยูโรประกอบธุรกิจในนาม บริษัท ซิกน่าเรียลเอสเตท ผู้บริหารการลงทุนและดำเนินธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของและบริหารทรัพย์สินมากมายในทวีปยุโรปอีกบริษัทคือ ซิกน่ารีเทล ซึ่งเป็นเจ้าของ 3 ธุรกิจ ได้แก่ KarstadtWarenhaus, KarstadtSports และกลุ่มคาเดเว (The KaDeWe Group) โดยทั้ง 3 บริษัทนี้ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของประเทศเยอรมัน ที่มีสาขาทั้งหมดกว่า 100 สาขา และพนักงานกว่า10,000 คน สร้างผลประกอบการมากกว่าปีละ 3,000 ล้านยูโร

การเข้าร่วมลงทุนในกลุ่มคาเดเวครั้งนี้คือหนึ่งในกลยุทธ์ทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลที่วางแผนพัฒนาห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในเมืองท่องเที่ยว ให้กลายเป็นศูนย์รวมการช้อปปิ้งสุดล้ำให้กับทั้งคน ในประเทศนั้นๆและนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน ทั้งนี้กลุ่มคาเดเวได้เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจตามแนวทางข้างต้นไปบ้างแล้ว และการผนึกกำลังกับกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลในครั้งนี้เป็นการร่วมกันเสริมสร้างศักยภาพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น  

ลำดับการซื้อกิจการห้างสรรพค้าในยุโรป

-ปี 2554  เป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลได้ขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคในทวีปยุโรป โดยการเข้าซื้อกิจการกลุ่มห้างสรรพสินค้าชั้นนำในประเทศอิตาลี ลา รินาเชนเต (La Rinascente)  ซึ่งกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้กับห้างสรรพสินค้าลารินาเชนเตในกรุงมิลาน และอีกกว่าสิบแห่งทั่วอิตาลีรวมถึงมีแผนเปิดสาขาใหม่ที่ใจกลางกรุงโรม ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2560

-ปี พ.ศ.2556 ซื้อ อิลลุม (Illum) ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2561

สำหรับการขยายธุรกิจในครั้งนี้ ทำให้กลุ่มบริษัทเซ็นทรัลก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านห้างสรรพสินค้าระดับระดับพรีเมี่ยมและลักชัวรี่ในภาคพื้นยุโรปและเอเชีย โดยมีแฟล็กชิพสโตร์ที่หรูหราและมีเอกลักษณ์ทั้งสิ้น 7 แห่ง (ได้แก่ ลา รินาเชนเตมิลาน,ลา รินาเชนเตโรม, อิลลุม โคเปนเฮเกน,คาเดเว เบอร์ลิน,โอเบอร์โพลลิงเกอร์ มิวนิค,อัลสแตร์เฮ้าส์ฮัมบูร์ก และ เซ็นทรัลชิดลมและเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กรุงเทพ) ซึ่งทุกแห่งล้วนตั้งอยู่ในอาคารที่เป็นแลนด์มาร์กของแต่ละเมืองดังกล่าว