มาทำความรู้จัก "วิศรุต อังคทะวานิช" กับผลงาน "ปลากัด" อันเลื่องชื่อบน iPhone 6s

 
นอกจากความฮือฮาของกระแสการเปิดตัว iPhone 6s ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว สิ่งที่เป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ยิ่งกว่า สามารถแย่งซีน “สีชมพูโรสโกลด์” ไปได้อย่างขาดรอย และสร้างความภาคภูมิใจแก่ประเทศไทยก็คือ ภาพ “ปลากัด” ฝีมือคนไทยโดย “วิศรุต อังคทะวานิช” ที่ปรากฏบนเครื่อง iPhone 6s ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
 
ถึงแม้ว่าวิศรุตจะออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่สามารถให้รายละเอียด และข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจ็คต์นี้ได้ เพราะติดเรื่องสัญญากับทาง Apple ที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลนอกเหนือจากตามที่ได้ตกลงกันไว้ทั้งสองฝ่าย
ทาง POSITIONING จะพาไปรู้จักกับช่างภาพคนนี้ให้มากขึ้น และผลงานของเขา ที่จะทำให้คุณหลงรักปลากัดมากขึ้นก็เป็นได้
 

 

 
ให้คุณวิศรุตช่วยเล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆ 
ชื่อ วิศรุต อังคทะวานิช ชื่อเล่นชื่อ รุต ตอนนี้เป็นช่างภาพอิสระ และก็เป็นวิทยากรสอนถ่ายภาพปลาให้กับกรมประมง เรียนมัธยมที่อัสสัมชัญ กรุงเทพฯ (บางรัก) ส่วนปริญญาตรี เรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณาและประชาสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคนชอบถ่ายภาพตั้งแต่เด็กๆ เพราะที่บ้านคุณพ่อก็ชอบถ่ายภาพ แต่จริงๆ พ่อเป็นหมอ แค่ชอบถ่ายภาพคนในครอบครัวเฉยๆ
งานอดิเรกของผม จะชอบต่อโมเดลหุ่นกันดั้ม, เลี้ยงปลา, ถ่ายภาพ และไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
 
ทำงานในวงการถ่ายภาพมากี่ปีแล้ว
ตอนนี้ผมก็อายุ 45 ปีแล้ว จำได้ว่าเริ่มถ่ายภาพอย่างจริงจังก็ตอนอายุ 15 ปี ตอนแรกเริ่มเลยจะเริ่มจากถ่ายภาพแนว Commercial ตอนอายุประมาณ 25 ปี พอโตขึ้นมาหน่อยราวๆ อายุ 35 ปี ก็เริ่มถ่ายระบบดิจิตอล 
 

 
อะไรคือ Passion ที่สำคัญของการถ่ายภาพปลาของตนเอง
เป็นคนชอบปลาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว ชอบดูปลาเวลาพ่อแม่พาไปร้านอาหาร ก็ต้องไปดูปลาในตู้ที่เขาจะทำอาหาร เห็นบ่อน้ำก็จะไปชะโงกดูว่ามีตัวอะไรมั้ย ไปตลาดสดก็ชอบดูแผงปลา… พอโตขึ้นหน่อยพ่อแม่ก็ให้เลี้ยงปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลากัดโตๆ เวลาว่างก็ชอบไปดำน้ำ ชอบตกปลา ชอบไปอควาเรียมต่างๆ ทำให้รู้สึกชอบใช้ชีวิตอยู่กับปลา รู้สึกชอบเวลาเห็นปลา มันดูน่ามหัศจรรย์ที่เคลื่อนไหวได้ 3 มิติ ดูไม่สนใจแรงดึงดูดของโลก และไม่ต้องการอากาศเหมือนสัตว์อื่น มีวิธีรับออกซิเจนที่ครีเอทีฟมากๆ
 
ให้คำจำกัดความของผลงานภาพปลาของตนเองว่าอย่างไร
มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ Fantasy กับ Realistic เพราะที่ถ่ายภาพแทบจะไม่ได้มีการตกแต่งให้นอกเหนือจากความเป็นจริงของปลานั้นๆ เลย เพียงแต่ภาพที่ออกมามันดูไม่เหมือนปลาที่อยู่ในสภาวะปกติที่คนคุ้นตาเท่านั้นเอง
 

 
ภาพปลาถือว่าเป็นลายเซ็นประจำตัวของคุณวิศรุตเลยได้มั้ย
จริงๆ ก็มีคนถ่ายอยู่ก่อนหน้านี้แล้วเหมือนกัน และเชื่อว่าหลังจากนี้ก็จะมีคนถ่ายภาพแนวนี้มากขึ้นเรื่อยๆอีกแน่นอน แต่อาจจะเป็นเพราะแนวของการแสดงออกที่ผมถ่ายมันมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ส่วนจะเป็นลายเซ็นประจำตัวผมรึเปล่า อันนี้น่าจะให้คนดูภาพตัดสินดีกว่า
 
ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง และผลงานในอนาคต
ตอนนี้เป็นศิลปินในสังกัดของ “ละลานตาแกลลอรี” (www.lalanta.com, fon@lalanta.com) มีงาน Solo Exhibition ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ชื่อ “Aquacade – ลีลาในวารี” นอกจากนี้ก็เป็นการออกงาน Art Fair กับทางแกลลอรีที่สิงคโปร์ นิวยอร์ค ฮ่องกง
ส่วนในอนาคต กำลังจะมีงานแสดงในโครงงาน “ไทยนวัตศิลป์” ของศูนย์ศิลปาชีพ ในงาน BIG BIH ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ และอาจจะมีงานปิดอื่นๆ อีกครับ  
 

 
มีความรู้สึกอย่างไรเมื่อภาพถ่ายของตนเอง ได้รับการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
จุดเริ่มต้นเลยก็คือ ภาพผมเป็นที่รู้จักเนื่องจากเคยไปโพสท์ภาพไว้ในเว็บ https://500px.com/bluehand แล้วมีเว็บที่รวบรวมงานศิลปะ งานออกแบบ ถ่ายภาพ ไปพบผลงานของผมเข้าซึ่งเว็บนั้นเป็นเว็บที่มีคนเข้าเยอะมากพอสมควร จากนั้นเลยมีการส่งกันต่อในอินเทอร์เน็ตตามบล็อกต่างๆ จนมีหนังสือแมกกาซีนจากหลายๆ ประเทศนำผลงานไปลง ซึ่งก็ทำให้มีสินค้าหลายๆ แบรนด์มาใช้ภาพนั้นๆ บางที่ก็เป็นปกซีดีบ้าง เป็นงานแฟชั่นดีไซน์บ้าง หลากหลายไปหมด
ต้องบอกว่าเนื่องจากทุกวันนี้โลกเราติดต่อกันได้หมดด้วยอินเทอร์เน็ต งานผมจึงไปได้ทั่วโลกโดยที่ผมไม่ต้องเดินทางไปไหนก็ได้…  
 

 
ช่วยเล่าอุปสรรคในการทำงานที่ผ่านมาให้ฟังหน่อย
สิ่งที่คิดว่ายากสุดคือ การไปหาปลาที่ถูกใจมาถ่ายภาพ เพราะบางทีเราต้องการแบบนึง แต่ที่ตลาดหาไม่ได้ ณ เวลานั้น แต่การไปเดินหาปลาก็เป็นเรื่องที่สนุกเพราะได้เห็นปลาแปลกๆ สวยๆ ให้ดู สนุกเหมือนเล่นเกมส์วิดีโอเลยทีเดียว
อย่างอื่นก็อาจจะเป็นเรื่องของ “เวลา” … เพราะตอนนี้มีลูกที่อยู่ในวัยกำลังซน ต้องให้เวลากับเขาเยอะนิดนึง เวลาถ่ายภาพส่วนมากก็จะเป็นเวลาที่ลูกหลับแล้ว ซึ่งพ่อก็ง่วงด้วย ถ่ายกลางคืนบางทีก็รู้สึกว่าไปกวนเวลานอนของปลานิดหน่อย เกรงใจปลาเหมือนกัน… แต่ก็ถ่ายอยู่ดี คิดซะว่าไม่ได้นอนเหมือนกันทั้งปลาทั้งคน ถ่ายเสร็จปลายังมีเวลานอนชดเชยกลางวันได้
 

 
เป้าหมายสูงสุดในชีวิต และในเส้นทางอาชีพนี้
เป้าหมายในชีวิตของผมขอมีชีวิตที่เรียบง่าย ธรรมดา มีความสงบสุขในทุกวัน มีชีวิตที่พระเจ้าเห็นแล้วพอใจ ครอบครัวมีความสุข คนรอบตัวมีความสุข สังคมมีความสุข แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 
ส่วนอาชีพก็แค่มีงานเรื่อยๆ มีงานน่าสนใจ น่าสนุก ท้าทาย ทำแล้วลูกค้าแฮปปี้ เราแฮปปี้ ผมว่าผมเป็นคนมักน้อยพอสมควร แต่คิดว่าถ้าเรามีความสุขกับสิ่งธรรมดาๆ เราจะมีความสุขได้ทุกวัน…