เพื่อตลาดจีน ไมโครซอฟท์ยอมทิ้ง Bing และ MSN เปลี่ยนเป็น “ไป่ตู้”

เพื่อเป้าหมายที่วางไว้นั่นก็คือ การมีคอมพิวเตอร์พีซีรันระบบปฏิบัติการวินโดว์ให้ได้ 1 พันล้านเครื่องภายในปี ค.ศ.2018 ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในวันนี้จึงยอมละทิ้งหลายๆ อย่างที่เคยเป็นหน้าตาให้แก่บริษัทออกไป ล่าสุด ก็คือ เสิร์ชเอนจิน “Bing” และหน้าโฮมเพจ MSN เพื่อหลีกทางให้พันธมิตรรายล่าสุด “ไป่ตู้” (Baidu) จากจีนแผ่นดินใหญ่ได้เข้ามาสวมแทน
 
การตัดสินใจดังกล่าวเป็นผลมาจากการจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้ประกอบกิจการอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง “ไป่ตู้” โดยผู้ใช้ไป่ตู้จะสามารถดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 (Windows 10) ได้โดยตรงผ่านช่องทาง “Windows 10 Express”
 
สิ่งที่นำไปแลกด้วยก็คือ เสิร์ชเอนจินจากไป่ตู้จะลงมาอยู่ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์แทน Bing และหน้าโฮมเพจของเบราเซอร์เอดจ์ (Edge) เบราเซอร์น้องใหม่ของไมโครซอฟท์ก็จะเปลี่ยนจาก MSN.com เป็น Baidu.com แทน
 
อย่างไรก็ดี เจ้าของเครื่องสามารถตั้งค่าหน้าโฮมเพจ-เสิร์ชเอนจินที่ต้องการใช้ และการตั้งค่าซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้ใหม่ตามต้องการ ส่วน Bing ก็ใช่ว่าจะหายหน้าหายตาไปจากการรับรู้ของผู้บริโภคชาวจีน เพราะ Bing จะคอยควบคุมระบบเสิร์ชภายในเครื่องให้อยู่ดี อีกทั้งยังมีผู้ช่วยส่วนตัวอย่างคอร์ทานาตามมาเหมือนเดิม
 
ด้านไมโครซอฟท์ได้โพสต์ในบล็อกของบริษัทว่า “เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของไป่ตู้ในการอัปเกรดวินโดวส์ 10 ผ่านช่องทาง “Windows 10 Express” จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ Baidu.com ในหน้าโฮมเพจ และบริการเสิร์ชแทน”
 
นอกจากไป่ตู้แล้ว ไมโครซอฟท์ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการในจีนอีกหลายราย เช่น Tencent, Qihoo รวมถึงเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) อย่างไรก็ดี ไป่ตู้เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานกว่า 600 ล้านคนต่อวัน จึงเปรียบได้กับพันธมิตรคนสำคัญของไมโครซอฟท์ในการบุกตลาดจีนเลยทีเดียว
 
นอกจากนี้ ในวันที่ 6 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ไมโครซอฟท์ยังมีแผนจะเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ที่รันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 มาให้สาวกไอทีได้ยลโฉมกันด้วย ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นคาดว่าจะเป็นแท็บเล็ต Surface Pro 4, สายรัดข้อมือไมโครซอฟท์ แบนด์ 2 และสมาร์ทโฟนลูเมีย เวอร์ชันล่าสุดนั่นเอง