Apple โชว์ยอดขาย iPhone 6s, 6s Plus สุดสัปดาห์แรกทะลุ 13 ล้านเครื่อง

ทุบสถิติยอดจำหน่ายสูงสุดเท่าที่เคยทำมาสำหรับแอปเปิล (Apple) ซึ่งประกาศว่า สามารถจำหน่าย iPhone 6s และ 6s Plus รุ่นใหม่ล่าสุดได้มากกว่า 13 ล้านเครื่อง ในช่วงสุดสัปดาห์แรกของการวางจำหน่าย โดยแซงหน้า iPhone 6 และ 6 Plus ที่เคยทำยอดขายได้ 10 ล้านเครื่องในปีที่แล้ว
 
ตัวเลขยอดจำหน่าย iPhone 6s และ 6s Plus ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นไปตามการประเมินของนักวิเคราะห์ ซึ่งเชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่ได้ราว 12-13 ล้านเครื่อง และจะทำสถิติใหม่ในเชิงยอดจำหน่ายถล่มทลายแม้สภาพเศรษฐกิจโลกจะผันผวนในหลายประเทศ
 
ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ในไอโฟนทั้ง 3D Touch และ Live Photos เสียงตอบรับที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อนี้ ทำให้แอปเปิลแทบรอไม่ไหวให้ถึงวันวางจำหน่าย iPhone 6s ทั้ง 2 ขนาดในประเทศอื่นช่วงวันที่ 9 ตุลาคมนี้
 
การประกาศตัวเลขยอดจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่ถูกมองเป็นอีกดัชนีที่สะท้อนว่า แอปเปิลจะสามารถรับมือต่อปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังตั้งเค้าในประเทศจีนได้ดีเพียงไร โดยแม้ผลลัพธ์ขณะนี้จะสะท้อนยอดจำหน่ายไอโฟนในภาพรวมนั้นเติบโตในทุกตลาด แต่ในระยะยาวนักลงทุนก็ยังคงกังวลว่า ไอโฟนใหม่จะขายดีเหมือนไอโฟนรุ่นที่ผ่านมาหรือไม่ ในวันที่ความต้องการในตลาดจีนเริ่มเงียบเชียบ
 
เหตุที่นักลงทุนแสดงความกังวลในเรื่องนี้ คือ ขนาดตลาดจีนที่คาดว่าจะเป็นตลาดไอโฟนมูลค่าที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม แอปเปิลดูจะเป็นแบรนด์ที่น่ากังวลน้อยกว่า เพราะตัวเลขยอดขายล่าสุดชี้ว่า แอปเปิลสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งอย่างซัมซุง (Samsung Electronics) มาได้สำเร็จในสังเวียนสมาร์ทโฟน
 
แอปเปิล ระบุว่า ไอโฟนรุ่นใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายเพิ่มในอีก 40 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมนี้ ก่อนจะขยายเป็น 130 ประเทศภายในปลายปี โดยยอดขายไอโฟนใหม่ 13 ล้านเครื่องนี้ คำนวณเฉพาะการวางจำหน่ายไอโฟนในประเทศกลุ่ม first-wave ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เปอร์โตริโก สิงคโปร์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
 
ตัวเลขความต้องการไอโฟนนั้นเป็นที่จับตาของนักสังเกตการณ์ทั่วโลก เนื่องจากที่ผ่านมา ไอโฟนถือเป็นแหล่งรายได้ที่ชี้เป็นชี้ตายแอปเปิล โดยสถิติล่าสุดพบว่า ไอโฟนทำรายได้ให้แอปเปิลมากกว่า 60% ของรายได้รวม ทั้งหมดนี้จึงทำให้หลายฝ่ายจับตาดูว่าไอโฟนรุ่นใหม่จะสามารถทำยอดขายได้มากเท่าไอโฟนรุ่นปัจจุบันหรือไม่