5 เรื่องสุดเซอร์ไพร์ส 'ไอโฟน 6s และ 6s Plus'

ภาพรวมไอโฟนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาคิดใหม่ทำใหม่ของแอปเปิลที่ไม่ราบรื่นเท่าใดนัก เพราะตั้งแต่ไอโฟน 5 มาถึงไอโฟน 6 แอปเปิลถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่สมบูรณ์ของตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงความสดใหม่ของฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์เริ่มน้อยลง กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่เร่งอัปเกรดแต่สเปกให้ทันคู่แข่งเท่านั้น
 
แต่เมื่อวันเวลาผ่านเลยไป ระบบปฏิบัติการยุคคิดใหม่ทำใหม่ถูกปรับปรุงจนสมบูรณ์มากขึ้นใน iOS 9 แอปเปิลได้คิดปรับปรุงสิ่งที่ทุกคนรอคอยตลอด 3 ปีก็คือ ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ที่สดใหม่ในไอโฟน 6s และ 6s Plus ที่ปกติตามธรรมเนียมจะเป็นรุ่นอัปเกรดเฉพาะสเปกบนดีไซน์เดิม
 
ไอโฟนที่มาพร้อมฟีเจอร์สดใหม่
 
หลังจากแอปเปิลมั่นใจรูปแบบการทำตลาดไอโฟน 2 ขนาดหน้าจอ (4.7 นิ้วและ 5.5 นิ้ว) ว่าสามารถไปต่อได้ ไอโฟน 6s จึงยึดรูปแบบการทำตลาดแบบเดิม พร้อมสิ่งที่เปลี่ยนไปจากธรรมเนียมที่แอปเปิลเลือกปฏิบัติมาตลอด 3 ปีก็คือ ในครั้งนี้แอปเปิลไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องฮาร์ดแวร์ประมวลผล แต่เป็นเรื่องของฟีเจอร์สดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและบางฟีเจอร์ถึงแม้จะมีคู่แข่งคิดใช้แล้ว แต่แอปเปิลสามารถทำได้ดีและสร้างสรรค์กว่า
 
และนี่คือ 5 เรื่องสุดเซอร์ไพร์สจากไอโฟน 6s และ 6s Plus
 
1. กล้องหน้าหลังใหม่ถอดด้าม
 
แอปเปิลเลือกใช้กล้องหลัง iSight 8 ล้านพิกเซล มาตั้งแต่ไอโฟน 5 จนมาถึงไอโฟน 6 แต่ในไอโฟน 6s และ 6s Plus ถือเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลยอมปรับเปลี่ยนกล้อง iSight ไปถึงกล้องหน้า FaceTime HD ใหม่หมดบนความละเอียดที่เพิ่มเป็น 12 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหลัง iSight และ 5 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหน้า FaceTime HD
 
อีกทั้งชิ้นเลนส์ เซนเซอร์รับภาพ หน่วยประมวลผล Focus Pixel และ Local Tone Mapping ยังถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะการประมวลผลโทนภาพหลังกดชัตเตอร์จะทำได้ฉลาดและดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงความคมชัดที่เพิ่มมากขึ้น
 
มาถึงกล้องหน้า FaceTime HD ที่ถูกอัปเกรดจากเดิม 1.2 ล้านพิกเซลเป็น 5 ล้านพิกเซล แอปเปิลยังได้คิดค้นระบบไฟแฟลชใหม่ในชื่อ ‘Retina Flash’ ด้วยหลักการคือ ใช้หน้าจอที่ออกแบบมาให้สามารถเพิ่มความสว่างได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่ายิงแสงแฟลชออกมา โดยข้อดีของ Retina Flash คือ ให้แสงที่นุ่มนวลกว่าไฟแฟลชจากหลอด LED
 
2. หน้าจอรับรู้แรงกด 3D Touch
 
หน้าจอรับรู้แรงกดถูกพัฒนาต่อยอดมาจากหน้าจอ Apple Watch และแทรคแพด Force Touch บน MacBook โดย 3D Touch จะทำงานได้ละเอียดกว่า Force Touch และสามารถใช้งานได้หลากหลายกว่า เช่น ความสามารถในการเปิดเมนูพิเศษด้วยการออกน้ำหนักสัมผัสหน้าจอให้แรงกว่าปกติ หรือการใช้งานฟังก์ชัน Peek ที่คุณสามารถแอบดูอีเมล์ รูปภาพหรือเว็บไซต์ได้ด้วยการออกแรงกดที่หัวข้ออีเมล์ที่ต้องการ หรือแม้แต่ในอนาคต หน้าจอ 3D Touch สามารถนำไปใช้วัดน้ำหนักของวัตถุหรือใช้ในการทำเพลง เล่นดนตรีได้เหมือนจริงขึ้น
 
นอกจากนั้นแอปเปิลยังได้ปรับปรุงเซนเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือเป็นรุ่น 2 ซึ่งมาพร้อมความรวดเร็วและแม่นยำในการตรวจจับลายนิ้วมือมากขึ้นกว่าเดิมเป็น เท่าตัว
 

 
3. วิดีโอ 4K ที่เหนือกว่าทุกคู่แข่ง
 
วิดีโอ 4K ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะคู่แข่งสามารถทำได้ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่ปัญหาของวิดีโอ 4K ในปัจจุบันก็คือเป็นแค่ลูกเล่นเสริม จะนำไปใช้จริงก็ยังให้ประสิทธิภาพที่ไม่ดีนัก แต่แอปเปิลกลับคิดต่างออกไปและพยายามปรับปรุงวิดีโอ 4K ให้มีประสิทธิภาพสูง โดยระหว่างถ่ายวิดีโอระบบป้องกันภาพสั่นไหวจะเข้ามาทำงานร่วมด้วย อีกทั้งเมื่อถ่ายวิดีโอเสร็จแล้วต้องการตัดต่อก็สามารถตัดต่อแบบ 4K ได้ทันทีผ่านซอฟต์แวร์ iMovie
 
ส่วนถ้าผู้ใช้อยากส่งไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงไปให้เพื่อนที่ใช้ไอโฟนรุ่นเก่า ก็สามารถเลือกความละเอียดวิดีโอที่เหมาะสมได้จาก iMovie เช่นกัน
 
นอกจากนั้นแอปเปิลยังได้ปรับปรุงวิดีโอไทม์แลปส์ใหม่พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ดีขึ้นจากความสามารถของหน่วยประมวลผล Apple A9
 
4. Live Photos อัลบั้มรูปมีชีวิต
 
รูปบางรูปเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดี Live Photos เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันใหม่จากแอปเปิลที่ช่วยให้ความทรงจำเหล่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยหลักการคือระหว่างกดชัตเตอร์ถ่ายภาพนิ่ง ระบบจะแอบบันทึกภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงไว้ และเมื่อเรานำรูปเหล่านั้นมาชมอีกครั้ง สามารถกดที่รูปเพื่อชมภาพเคลื่อนไหวขนาดสั้นของช่วงเวลาแห่งความทรงจำได้ทันที
 
นอกจากนั้น Live Photos ยังสามารถตั้งเป็นภาพพื้นหลังในหน้าล็อกสกรีนได้ด้วย
 
5. จบทุกปัญหาที่เกิดกับไอโฟน 6
 
คงทราบดีว่าไอโฟน 6 มีปัญหาเรื่องวัสดุฝาหลังงอได้ง่าย แต่ในไอโฟน 6s และ 6s Plus แอปเปิลได้ปรับเปลี่ยนวัสดุฝาหลังเป็นอลูมิเนียม ซีรีส์ 7,000 ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่าเดิม และมาพร้อมสีใหม่โรสโกลด์ รวมถึงส่วนหน้าจอยังได้อัปเกรดกระจกจอใหม่ด้วยเทคโนโลยี Dual Ion Exchange ที่มีความแข็งแรงและสามารถลดการเกาะตัวของหยดน้ำบนหน้าจอได้
 
ไอโฟนที่ดีที่สุดในช่วง 3 ปี
 
ด้านหนึ่งไอโฟน 6s และ 6s Plus กลายเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นปรับปรุงปิดข้อบกพร่องจากไอโฟน 6 ตามธรรมเนียมของไอโฟนที่ลงท้ายด้วยตัวอักษร S แต่อีกด้านหนึ่งแอปเปิลเลือกปรับเพิ่มใส่ลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ที่เราไม่ได้เห็นมาตลอด 3 ปีได้อย่างลงตัวและช่วยให้ไอโฟนรุ่นใหม่นี้เป็นไอโฟนที่มีสีสัน น่าค้นหามากกว่าไอโฟนทุกรุ่นที่เคยวางขายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา