“โจนี่ ไอฟ์” เปิดใจ ทำไม iPad Pro ต้องมี “Pencil”

ในขณะที่กระแสชื่นชมใน iPad Pro กำลังกระหึ่มในโลกออนไลน์หลังจากเปิดวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน (11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา) อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสงสัยต่อการตัดสินใจเปิดตัว “Pencil” สไตลัสสำหรับไอแพดโปร (iPad Pro) จากค่ายแอปเปิล (Apple) แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกก็กำลังจะได้รับคำตอบ โดย โจนี่ ไอฟ์ (Jony Ive) ผู้บริหารคนสำคัญได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสารวอลล์เปเปอร์ (Wallpapaer Magazine) ถึงการตัดสินใจสิ่งที่สวนทางต่อแนวคิดของอดีตซีอีโอผู้โด่งดังอย่าง “สตีฟ จ็อบส์” (Steve Jobs) อย่างสิ้นเชิงอย่างน่าสนใจ
 
สิ่งหนึ่งที่เขาอธิบายเพิ่มเติม และทำให้เข้าใจแนวความคิดของสตีฟ จ็อบส์ ได้ดีมากขึ้นก็คือ สตีฟ จ็อบส์ ต้องการพัฒนาระบบ User Interface ที่ใช้งานบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิสก์โดยใช้ “นิ้วมือ” เป็นหลัก นั่นจึงทำให้สตีฟ จ็อบส์ ปฏิเสธแนวคิดการพัฒนาสไตลัสเรื่อยมา
 
แต่ด้วยสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการมาถึงของไอแพด โปร ที่มาพร้อมหน้าจอ 12.9 นิ้ว โจนี่ ไอฟ์ เผยว่า “เราพบว่ามีผู้ใช้กลุ่มหนึ่งเลยทีเดียวที่ต้องการเครื่องมือช่วยให้พวกเขาสามารถวาด หรือลงสีได้อย่างใจในระดับที่นิ้วมือไม่สามารถรองรับการทำงานนั้นๆ ได้ และผมมองว่าผู้ใช้กลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มเล็กๆ เสียด้วย” ไอฟ์ กล่าว
 
การค้นพบกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดังกล่าวยังทำให้แอปเปิลได้มองเห็นโอกาสใหม่สำหรับไอแพด นั่นก็คือ การเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์งานสำหรับวงการกราฟิกดีไซเนอร์ระดับมืออาชีพ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ 
 
ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากเริ่มวางจำหน่ายได้ไม่นานก็มีการเสียงตอบรับในแง่บวกถึงไอแพด โปร เกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น CNET ที่ยกไอแพด โปรว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดใหญ่และตอบสนองได้เร็วที่สุด รวมถึงแอปต่างๆ ที่รองรับการทำงานแบบมัลติทาสกิ้งได้อย่างเยี่ยมยอด ส่วนปากกาสไตลัส “เพนซิล” ก็ให้ประสบการณ์ในการสเกตช์ และวาดภาพได้อย่างดี
 
ขณะที่ด้านลบของไอแพด โปรนั้นอาจมาจากส่วนของแอปพลิเคชันที่หาแอปดีๆ และสามารถดึงประสิทธิภาพของไอแพด โปรออกมาได้เต็มที่นั้นยังมีน้อยเกินไป และขนาดที่ใหญ่ก็ทำให้เครื่องนั้นพกพาค่อนข้างลำบาก อีกทั้งหากผู้บริโภคจ่ายเงินซื้อ Pencil และคีย์บอร์ดด้วยแล้ว ต้นทุนของไอแพด โปรเครื่องนั้นจะยิ่งสูง ดีไม่ดีอาจสูงกว่าการซื้อแลปท็อปดีๆ สักตัวหนึ่งเลยก็เป็นได้