ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเครียด ยอดขายในไทยลดลง 3 ปีติด

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นกังวลยอดขายรถยนต์ในไทยลดลง 3 ปีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมทั้งนโยบาย “รถคันแรก” ซึ่งทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ
 
ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักและศูนย์กลางการผลิตและการขายของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดรวมราวร้อยละ 90 ในไทย ยอดขายรถยนต์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลกระทบต่อค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างมาก
 
สถานีวิทยุ NHK รายงานว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ในไทยลดลงกว่าร้อยละ 9 จากเมื่อปีที่แล้ว บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในไทย ระบุว่ายอดขายรถยนต์ในไทยปี 2015 อยู่ที่เกือบ 800,000 คัน ลดลงร้อยละ 9.3 และลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
 
ขณะที่นายเคียวอิชิ ทะนะดะ ประธานบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่ายอดขายรถยนต์กำลังเติบโตในประเทศอื่น เช่น ฟิลิปปินส์และเวียดนาม และยอดขายรวมสำหรับทวีปเอเชียจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
 
สถานีวิทยุ NHK ระบุว่ายอดขายรถยนต์ที่ลดลงในไทยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ซบเซา ทั้งผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงอย่างมาก, ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ รวมทั้งการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งปฏิเสธคำขออนุมัติสินเชื่อมากถึง 30-40% ส่งผลให้ยอดซื้อรถยนต์ในไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2015 มียอดขายอยู่ที่ราว 799,000 คัน ลดลงจากปี 2014ที่มียอดขายอยู่ที่ราว 881,000 คัน
 
ตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินว่ายอดขายรถในปี 2016 จะลดลงอีกเล็กน้อย โดยตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ปีนี้ที่ 750,000 -780,000 คัน
 
 
พิษตกค้างจากนโยบาย “รถคันแรก”
 
ยอดขายรถยนต์ในไทยบที่ลดลงอย่างมาก นอกจากเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาแล้ว ยังเป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายรถคันแรกในสมัยของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่รู้กันดีว่าเป็นการชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถยนต์ที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ โดยในครั้งนั้นบริษัท ฮอนด้า ต้องทำลายรถยนต์จำนวน 1,055 คันที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ที่โรงงานในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา
 
นโยบายรถคันแรกทำให้ประชาชนแห่กันไปซื้อรถใหม่เพื่อหวังคืนเงินภาษี 1 แสนบาท แต่ต่อมาผู้ซื้อรถหลายรายผ่อนส่งต่อไม่ไหว จนทำให้เกิดหนี้เสียจำนวนมากและสถาบันการเงินต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยกู้