Facebook ปี 2030 ตั้งเป้าผู้ใช้ทะลุ 5 พันล้านคน

อีก 15 ปีข้างหน้า เจ้าพ่อเครือข่ายสังคม “เฟซบุ๊ก” (Facebook) ตั้งเป้ามีฐานผู้ใช้มากกว่า 5 พันล้านคนท่ามกลางประชากรโลก 7 พันล้านคน ฝันยิ่งใหญ่นี้ถูกประกาศโดยซีอีโอมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ในงานฉลองครบรอบการก่อตั้งเฟซบุ๊ก 12 ปี ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นวันเพื่อนหรือ “เฟรนด์เดย์” (Friends Day) ที่ผู้ใช้ทั่วโลกได้เห็นวิดีโอพิเศษในโอกาสนี้ไปบ้างแล้ว
 
มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผู้ใช้อีก 3.5 พันล้านคนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วง 15 ปีต่อจากนี้มีความเป็นไปได้จริง โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กนั้นเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวนับตั้งแต่ปี 2011 จนแตะระดับ 1.5 พันล้านคน
 
“เราต้องการเชื่อมต่อทุกคนบนโลกเข้าด้วยกัน เพื่อเป้าหมายนี้ เรากำลังจับมือกับรัฐบาล และบริษัททั่วโลก” ซีอีโอเฟซบุ๊ก กล่าวขณะพูดถึงเครื่องบินทรงบูมเมอร์แรงที่เฟซบุ๊กตั้งชื่อว่า Aquila เพื่ออธิบายให้เห็นภาพว่า เฟซบุ๊กทำโครงการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วยเครื่องบินนี้เพื่ออะไร
 
อย่างไรก็ตาม โครงการฟรีอินเทอร์เน็ตของเฟซบุ๊กกำลังถูกต่อต้านจากหน่วยงานหลายประเทศ ที่เห็นได้ชัด คือ อินเดียซึ่งเป็น 1 ใน 25 ประเทศที่เฟซบุ๊กให้บริการฟรีไว-ไฟชื่อ “ฟรีเบสิกส์” (Free Basics)
 
โครงการอินเทอร์เน็ตฟรีบางเว็บไซต์ (โครงการ Free Basics หรือที่เคยมีชื่อว่า Internet.org) ของเฟซบุ๊ก ถูกระงับให้บริการในอินเดียเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยรัฐบาลอินเดียออกคำสั่งระงับโครงการที่เฟซบุ๊กจับมือกับผู้ให้บริการเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงบางเว็บไซต์ได้ฟรี เนื่องจากหวั่นใจว่าอาจเป็นการปิดกั้นการแข่งขัน และผลกระทบอื่นๆ ที่จะตามมา โดยโครงการนี้จะเปิดฟรีให้ผู้ใช้เข้าถึงบางเว็บไซต์เท่านั้น ซึ่งแม้เว็บไซต์อื่น หรือ third-parties ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเนื่องจากเฟซบุ๊กเป็นเจ้าภาพควบคุมทุกอย่าง
 
ครั้งนั้น ซีอีโอเฟซบุ๊กแสดงความเห็นปกป้องโครงการ Free Basics สุดฤทธิ์ โดยเปรียบเทียบว่า โครงการนี้ไม่ต่างอะไรกับห้องสมุดสาธารณะที่เปิดให้ผู้คนได้อ่านหนังสือฟรีบางเล่ม ซึ่งการเปิดฟรีนี้ยังทำให้ธุรกิจร้านหนังสือสามารถวางจำหน่ายหนังสือได้ต่อไป
 
สำหรับการเฉลิมฉลองวันเพื่อนที่สำนักงานใหญ่เฟซบุ๊กนั้นมีผู้ใช้จำนวน 18 คนมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าพ่อเครือข่ายสังคมด้วย โดยทั้ง 18 คนมีโอกาสใช้เวลา 40 นาทีกับซีอีโอมาร์กซึ่งปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังจากลางานไปดูแลลูกสาวคนแรกวัย 2 เดือน